Blog

เจาะลึก ‘ค่าระวาง’ หัวใจสำคัญของการขนส่งสินค้าทั่วโลก

ubs

เจาะลึก ‘ค่าระวาง’ หัวใจสำคัญของการขนส่งสินค้าทั่วโลก

Student blog — 15/09/2025

เจาะลึก ‘ค่าระวาง’ หัวใจสำคัญของการขนส่งสินค้าทั่วโลก
ในโลกยุคปัจจุบันที่เราสามารถสั่งซื้อสินค้าจากอีกซีกโลกได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส เคยสงสัยไหมครับว่ากว่าสินค้าชิ้นนั้นจะเดินทางมาถึงมือเรา ต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้าง และมีค่าใช้จ่ายอะไรซ่อนอยู่? หนึ่งในหัวใจสำคัญของกระบวนการนี้ คือสิ่งที่เราเรียกว่า “ค่าระวางขนส่งสินค้า” หรือ Freight Charge ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญที่ผู้ประกอบการและผู้บริโภคอย่างเราๆ ต้องทำความเข้าใจ

ทำความเข้าใจ ‘ค่าระวางขนส่งสินค้า’ คืออะไร?
“ค่าระวางขนส่งสินค้า” คือ ค่าบริการที่ผู้ประกอบการขนส่งเรียกเก็บ เพื่อแลกกับการนำส่งสินค้าจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ หรือทางราง พูดง่ายๆ คือเป็นค่าจ้างในการเคลื่อนย้ายสินค้าของเรานั่นเอง ค่าระวางนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ค่า “ขนส่ง” ธรรมดา แต่ยังครอบคลุมถึงต้นทุนต่างๆ ทั้งค่าเชื้อเพลิง ค่าแรงงาน ค่าบำรุงรักษายานพาหนะ ค่าใช้จ่ายในการจัดการเอกสาร และค่าประกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งอีกด้วย

หลักการคิดค่าระวางขนส่งสินค้าตามหลักสากล
การคิดค่าระวางขนส่งสินค้าไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด แต่มีหลักการสากลและปัจจัยสำคัญหลายอย่างที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเราสามารถระบุได้ดังนี้ เช่น

  • ระยะทาง (Distance): เป็นปัจจัยพื้นฐานที่สุด ยิ่งระยะทางที่สินค้าต้องเดินทางไกลมากเท่าไหร่ ค่าระวางก็มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นตามไปด้วย เพราะส่งผลโดยตรงต่อปริมาณเชื้อเพลิง เวลา และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • น้ำหนักและปริมาตร (Weight & Volume):
    • น้ำหนักจริง (Gross Weight): คือน้ำหนักของสินค้าที่ชั่งได้จริง
    • น้ำหนักเชิงปริมาตร (Volumetric Weight / Dimensional Weight): คือการแปลงขนาดของสินค้า (กว้าง x ยาว x สูง) ให้เป็นน้ำหนัก เพื่อให้สะท้อนถึงพื้นที่ที่สินค้ากินไปในยานพาหนะ โดยส่วนใหญ่แล้ว สายการบินหรือบริษัทขนส่งจะเลือกคิดค่าระวางจาก “น้ำหนักที่ใช้ในการเรียกเก็บ (Chargeable Weight)” ซึ่งจะเป็นค่าที่สูงกว่าระหว่างน้ำหนักจริงกับน้ำหนักเชิงปริมาตร เหตุผลก็คือ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการใช้พื้นที่ ไม่ใช่แค่น้ำหนักเพียงอย่างเดียว เช่น หากขนสินค้าที่เบามากแต่มีขนาดใหญ่ ก็จะถูกคำนวณจากน้ำหนักเชิงปริมาตรที่สูงกว่า
  • โหมดการขนส่ง (Mode of Transport): วิธีการขนส่งที่เลือกใช้มีผลอย่างมากต่อค่าระวางและความรวดเร็ว:
    • ทางน้ำ: ถือเป็นโหมดที่ประหยัดที่สุดสำหรับการขนส่งสินค้าปริมาณมากและมีน้ำหนักเยอะในระยะทางไกลๆ มักใช้ตู้คอนเทนเนอร์เป็นหลัก (ประมาณ 80-90% ของการค้าระหว่างประเทศ)
    • ทางอากาศ: รวดเร็วที่สุด เหมาะสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าสูง สินค้าด่วน หรือ perishable goods ที่ต้องการความสดใหม่ แต่ก็มีค่าระวางที่สูงที่สุดเช่นกัน
    • ทางบก (รถบรรทุก): มีความยืดหยุ่นสูง สามารถส่งสินค้าได้ถึงปลายทาง (Door-to-Door Service) เหมาะกับการขนส่งภายในประเทศหรือข้ามประเทศเพื่อนบ้าน ค่าระวางมักคิดตามระยะทาง น้ำหนัก หรือขนาดของรถบรรทุก
    • ทางราง: คุ้มค่าสำหรับการขนส่งปริมาณมากในระยะทางไกลๆ ข้ามภูมิภาค หรือระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในทวีปที่มีโครงข่ายรถไฟหนาแน่น ถือเป็นทางเลือกที่ประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สูตรมาตรฐานราคาค่าขนส่งสินค้า: บาท/ตัน/กิโลเมตร สามารถอธิบายได้ว่า หากมีการขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนัก 1ตัน เคลื่อนที่ไป 1กิโลเมตร จะมีค่าขนส่งในราคา x บาท ดังนั้นเรามาดูข้อมูลเพิ่มเติมว่าการขนส่งแต่ละรูปแบบมีค่าขนส่งเท่าไหร่กัน
  • ค่าขนส่งทางถนน: 2.12 บาท/ตัน/กิโลเมตร
  • ค่าขนส่งทางราง: 0.95 บาท/ตัน/กิโลเมตร
  • ค่าขนส่งทางน้ำ: 0.65 บาท/ตัน/กิโลเมตร
  • ค่าขนส่งทางอากาศ: 10 บาท/ตัน/กิโลเมตร

ดังนั้นสำหรับผู้ประกอบการแล้ว นี่คือองค์ความรู้สำคัญที่จะช่วยให้สามารถวางแผนการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เลือกใช้รูปการขนส่งที่เหมาะสม และประเมินต้นทุนได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะนำไปสู่การลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกได้ในที่สุด

แชร์บทความนี้

หลักสูตร